วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

สถานที่ท่องเที่ยวทุ่งทานตะวัน

                                                                      ทุ่งทานตะวัน
ทุ่งทานตะวัน  สระบุรี
นักท่องเที่ยวสามารถ วางแผนการเดินทางมาท่องเที่ยว ทุ่งทานตะวัน จังหวัดสระบุรี ได้ตลอดเวลาเลือกชมได้ ในหลายๆ พื้นที่ โดยแต่ละแห่ง แต่ละ พื้นที่จะมีความสวยงามและกิจกรรมการจัดงานแตกต่างออกไป นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการขับรถชมทุ่งทานตะวันท่ามกลางบรรยากาศเนินเขา ทุ่งหญ้า ฟาร์มม้า โคนม และ ไร่องุ่น สามารถเลือกชมและท่องเที่ยวทุ่งทานตะวันได้ในพื้นท ี่อำเภอวังม่วง และมวกเหล็ก บรรยากาศการ ท่องเที่ยว ของสองอำเภอนี้เหมาะสำหรับท่องเที่ยวแบบครอบครัว ขับรถชมทิวทัศน์ ชมธรรมชาติ ท่ามกลาง สาย ลมหนาว ที่พัดผ่านที่ราบเชิงเขา ชมทุ่งทานตะวันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พักผ่อนรีสอร์ตกับครอบครัวอย่างมีความสุขทานตะวันจะบานสะพรั่งสวยงามในสองอำเภอนี้มากที่สุด ในช่วง ระหว่าง เดือนธันวาคมและมกราคม ในช่วง เวลาอื่นๆ จะมีบานสะพรั่งเป็นพื้นที่ๆ
ทุ่งทานตะวัน  สระบุรีทุ่งทานตะวัน  สระบุรี
เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ของทุกปี ฤดูกาลท่องเที่ยว ทุ่งทานตะวัน จังหวัดสระบุรี  ริมฝั่งถนนจะสะพรั่งไปด้วยสีเหลืองของดอกทานตะวัน เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้ผ่านมาบริเวณนี้เป็น อย่างมากจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด และในทุกปีจังหวัดสระบุรีจะ จัด เทศกาลทุ่งทานตะวันบาน ในทุกปี สลับหมุนเวียนไปในแต่ละอำเภอ / พื้นที่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไป ชื่นชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ตลอดจนการ ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการปลูกดอกทานตะวัน การนำเอาผลผลิตจาก เมล็ดทานตะวันไปใช้ประโยชน์ในการอุปโภคบริโภครวมทั้งการเลือกซื้ออาหารเพื่อสุขภาพ เช่น เมล็ดทานตะวัน คั่วสด ๆ จากไร่ หรือหาซื้อน้ำผึ้งทานตะวันเป็นของฝากจังหวัดสระบุรีมีพื้นที่ปลูกทานตะวันนับหลายหมื่นไร่ บริเวณ เขตติดต่อระหว่างจังหวัดลพบุรี และสระบุรี ตามเส้นทางสายพัฒนานิคม-วังม่วง มีการทำไร่ทานตะวันกันมาก รวมทั้งในอีกหลายอำเภอของสระบุรี เช่น อำเภอพระพุทธบาทแก่งคอย หนองโดน หนองแคและมวกเหล็ก แต่ที่อำเภอวังม่วงจะมีพื้นที่ปลูกมากที่สุด
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการชมทุ่งทานตะวันในหุบเขาแบบแรลลี่ครอบครัว จะพบกับความงดงามของ ทุ่งทานตะวันเต็มหุบเขา ที่ตำบลหินซ้อน และตำบล ท่าคล้อ ของอำเภอแก่งคอย ทานตะวันจะบานสะพรั่งใน ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมมากที่สุด เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบแรลลี่ชมทุ่งทานตะวัน ในพื้นที่อำเภอ แก่งคอยนี้ทุ่งทานตะวันจะบานสะพรั่งมากที่สุดกว่า 20,000 ไร่ ในหลายตำบล นักท่องเที่ยวที่ต้องการ นั่งรถไฟ ผ่านทุ่งทานตะวันต้องนั่งรถไฟ สายกรุงเทพฯ-หนองคาย เมื่อเดินทางเข้าพื้นที่ตำบบลท่าคล้อ หินซ้อน ของอำเภอแก่งคอยตลอดแนวสองข้างทางรถไฟ จะพบกับทุงทานตะวัน เหลืองอร่ามท่ามกลางสายลมหนาวพัด เย็นสบาย หากจะนั่งรถไฟผ่าน ทุ่งทานตะวัน ขอแนะนำให้นั่งรถช่วงระหว่างกลางเดือนธันวาคม ถึงปลายเดือน จะไม่ผิดหวัง

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับผลไม้

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับผลไม้


banana บะ แนน' นา กล้วย
orange ออ' เร็นจฺ ส้ม
papaya พะ พา' ยา มะละกอ
mango แม็ง' โก มะม่วง
apple แอป' เพิล แอปเปิ้ล
pineapple ไพนฺ' แอป เพิล สับปะรด
coconut โค' โคะ นัทฺ มะพร้าว
durian ดู' เรียนฺ ทุเรียน
mangosteen แม็ง' โกสฺ ทีนฺ มังคุด
rose-apple โรสฺ' แอป เพิล ชมพู่
peach พีชฺ ลูกพีช
pear แพรฺ ลูกแพร
plum พลัมฺ ลูกพลัม
apricot เอ' พริ ค็อท ลูกแอ็ปปริคอท
kiwi คี' วี ลูกกีวี
avocado แอ็ฟโว' คาโดะ ลูกอะโวคาโด
contaloupe แคน' ทะ ลูพฺ แตงแคนตาลูป
watermelon วอ' เทอรฺ เม' ลัน แตงโม
grape กเรพฺ องุ่น
cherry เชอ' รี เชอร์รี่
strawberry สทรอ' เบอ รี สตรอเบอร์รี่
raspberry แรสฺ' เบอ รี ราสเบอร์รี่
blueberry บลู' เบอ รี บลูเบอร์รี่
guava กวา' ฝะ ผลฝรั่ง
persimmon เพอรฺ ซีม' มันฺ ลูกพลับ
pomelo พ็อม' มี โล ส้มโอ
pomegranate พ็อม' แกรน เน็ทฺ ทับทิม
rambutan แร็ม' บู ทัน เงาะ
prickly pear พริคง ลิ แพรฺ ลูกแพรขน
longan ลอง' เกินฺ ลำใย
lichee ไล' ชี ลิ้นจี่
sapodilla แช โพะ ดิล' ละ

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

ผลไม้ที่ชอบ









                                                               ผลหม่อน


             เป็นผลที่เกิดจากช่อดอก ผลเป็นผลรวมอยู่ในกระจุกเดียวกัน โดยจะออกตามซอกใบ ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกระบอก ยาวประมาณ 1-2.5 เซนติเมตร ผลเป็นสีเขียว เมื่อผลสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดงเข้มหรือสีม่วงดำ เกือบดำ เนื้อนิ่ม ฉ่ำน้ำ และมีรสหวานอมเปรี้ยว[1],[2]
ผลหม่อน

                                                      สรรพคุณของหม่อน
ใบหม่อนมีรสจืดเย็น ใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาระงับประสาท (ใบ)[1],[4]
ใบใช้ทำชามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (ราก)[4]
กิ่งหม่อนมีสรรพคุณช่วยทำให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวกมากขึ้น (กิ่ง)[8]
ช่วยบำรุงหัวใจ (ผล)[8]
ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ (ใบ)[2]
ผลนำมาต้มกับน้ำหรือเชื่อมกินเป็นยาแก้ธาตุไม่ปกติ (ผล)[3],[4]
ผลหม่อนมีรสเปรี้ยวหวานเย็น มีสรรพคุณช่วยดับร้อน คายความร้อนรุ่ม ขับลมร้อน ทำให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการกระหายน้ำ และทำให้ร่างกายชุ่มชื่น (ผล)[1],[2],[4],[8]
ใบใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ไข้ ไข้หวัด ตัวร้อน แก้ร้อนในกระหายน้ำ และเป็นยาช่วยขับลมร้อน (ใบ)[1],[2],[3],[4]
ใบมีรสขม หวานเล็กน้อย เป็นยาเย็นออกฤทธิ์ต่อปอด ตับ และกระเพาะอาหาร ใช้เป็นยาแก้ไอร้อนเนื่องจากถูกลมร้อนกระทบ (ใบ)[2]
ใบมีสรรพคุณช่วยขับเหงื่อ (ใบ)[3],[4]
ใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ไอ (ใบ)[1]
เปลือกรากหม่อนมีรสชุ่ม เป็นยาเย็นออกฤทธิ์ต่อปอดและม้าม ใช้เป็นยาแก้ไอเป็นเลือด แก้ไอร้อนไอหอบ (เปลือกราก)[2]
เมล็ดมีสรรพคุณเป็นยาขับเสมหะ (เมล็ด)[3]
ใบนำมาทำเป็นยาต้ม ใช้อมหรือกลั้วคอแก้อาการเจ็บคอ คอแห้ง แก้ไอ และทำให้เนื้อเยื่อชุ่มชื้น หล่อลื่นภายนอก (ใบ)[2],[3],[4]
รากนำมาตากแห้งต้มผสมกับน้ำผึ้ง มีรสหวานเย็น ใช้มากในโรคทางเดินหายใจและการมีน้ำสะสมในร่างกายอย่างผิดปกติ (ราก)[4]
ยอดหม่อนนำมาต้มกับน้ำดื่มและล้างตาเป็นยาบำรุงตา (ยอด)[8] ส่วนผลมีสรรพคุณทำให้เส้นประสาทตาดี ทำให้สายตาแจ่มใส ร่างกายสุขสบาย (ผล)[8]
ใบนำมาต้มเอาน้ำใช้ล้างตา แก้ตาแดง ตามัว ตาแฉะ และตาฝ้าฟาง (ใบ)[1],[4]
ใบมีสรรพคุณช่วยทำให้เลือดเย็นและตาสว่าง (ใบ)[2], ส่วนผลมีสรรพคุณช่วยทำให้หูตาสว่าง (ผล)[2]
ใบแก่นำมาตากแห้งมวนสูบเหมือนบุหรี่ แก้ริดสีดวงจมูก (ใบแก่)[4]
ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ด้วยการใช้เปลือกรากประมาณ 90-120 กรัม นำมาทุบให้แหลก แล้วนำมาต้มกับน้ำดื่มเช้าและเย็น หรือจะใช้ใบนำมาทำเป็นชาเขียวใช้ชงกับน้ำดื่มก็ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เช่นกัน นอกจากนี้ผลก็มีสรรพคุณรักษาเบาหวานได้เช่นกัน (ราก,เปลือกราก,ใบ,ผล)[2],[3],[8]
ใบอ่อนหรือแก่นำมาทำเป็นชาเขียว ใช้ชงกับน้ำดื่มช่วยลดไขมันในเลือด (ใบ)[3]
ช่วยขับน้ำในปอด (เปลือกราก)[2]
กิ่งหม่อนมีสรรพคุณช่วยทำให้ลำไส้ทำงานได้ดี ช่วยจัดความร้อนในปอด และกระเพาะอาหาร ช่วยขจัดการหมักหมมในกระเพาะอาหารและเสลดในปอด (กิ่ง)[8]
ผลมีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องผูก (ผล)[2]
ผลนำมาต้มกับน้ำหรือเชื่อมกินเป็นยาเย็น ยาระบายอ่อนๆ และมีเมล็ดที่ช่วยเพิ่มกากใยอาหาร (ผล)[3],[4] ส่วนเปลือกต้นก็มีสรรพคุณเป็นยาถ่าย ยาระบายเช่นกัน (เปลือกต้น)[3],[4]
เปลือกต้นใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ (เปลือกต้น)[3],[4] รากช่วยขับพยาธิ (ราก)[4]
เปลือกรากมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ (เปลือกราก)[2]
กิ่งหม่อนมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการปัสสาวะสีเหลือง มีกลิ่นฉุนอันเกิดจากความร้อนภายใน (กิ่ง)[8]
ผลเป็นยาเย็นที่ออกฤทธิ์ต่อตับและไต มีสรรพคุณช่วยบำรุงตับและไต (ผล)[1],[2],[4]
ช่วยรักษาตับและไตพร่อง (ผล)[2]
รากมีสรรพคุณเป็นยาสมาน (ราก)[4]
ใบนำมาอังไฟและทาด้วยน้ำมันมะพร้าว ใช้วางบนแผลหรือตำใช้ทาแก้แมลงกัด (ใบ)[4]
ใบใช้ผสมกับหอมหัวใหญ่เป็นยาพอกรักษาแผลจากการนอนกดทับ (ใบ)[4]
ใบใช้เป็นยาแก้อาการติดเชื้อ (ใบ)[4]
ช่วยลดอาการบวมน้ำที่ขา (เปลือกราก)[2]
ช่วยแก้ข้อมือข้อเท้าเกร็ง แก้โรคปวดข้อ ไขข้อ (ผล)[2],[4],[8]
ช่วยแก้แขนขาหมดแรง (ราก)[4]
กิ่งหม่อนมีรสขมเป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อตับ ใช้เป็นยาขับลมชื้นแก้ข้ออักเสบเนื่องจากลมชื้นเกาะติด หรือลมร้อนที่ทำให้ปวดแขน ขาบวม หรือมือเท้าแข็งเกร็ง เส้นตึง (กิ่ง)[2] ช่วยรักษาอาการปวดมือ เท้าเป็นตะคริว เป็นเหน็บชา ด้วยการใช้กิ่งหม่อนและโคนต้นหม่อนเก่าๆ นำมาตัดเป็นท่อนๆ ผึ่งไวให้แห้ง แล้วนำมาต้มกิน (กิ่ง)[8]
ช่วยบำรุงเส้นผมให้ดกดำ (ผล)[8]
ส่วนในประเทศจีนจะใช้เปลือกราก กิ่งอ่อน ใบ และผล เป็นยาบำรุง แก้โรคเกี่ยวกับทรวงอก แก้ไอ หืด วัณโรคปอด ขับปัสสาวะ การสะสมน้ำในร่างกายผิดปกติ และโรคปวดข้อ (เปลือกราก,กิ่งอ่อน,ใบ,ผล)[4]
หมายเหตุ : วิธีใช้ตาม [2] เปลือกรากแห้ง ให้ใช้ครั้งละ 6-15 กรัม ส่วนใบแห้งให้ใช้ครั้งละ 6-15 กรัม, ส่วนผลแห้งให้ใช้ครั้งละ 10-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน หรือใช้เข้าตำรับยาตามที่ต้องการ[2]

อาหารที่ชอบ





                                                                  ต้มแซบหมู


         ต้มแซบหมูเมนูอาหารที่มีรสชาติเปรี้ยวนำ ที่ได้รับความนิยมจากบรรดาคนที่ชื่นชอบอาหารรสจัดทั้งหลาย เพราะว่าเป็นเมนูที่ใครๆก็รู้จักและสามารถหาซื้อได้ตามร้ายขายอาหารอีสานทั่วไป แต่ตามร้าน

ส่วนประกอบ

เนื้อหมูจำนวน 300 กรัม
ตะไคร้ทุบตัดเป็นท่อนๆจำนวน 2 ต้น
ข่าแก่หั่นเป็นแว่นจำนวน 7 แว่น
ใบมะกรูดจำนวน 5 ใบ
ผักชีฝรั่งหั่นหยาบๆจำนวน 5 ใบ
น้ำมะนาวจำนวน 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนทุบพอแตกจำนวน 10 เม็ด
น้ำปลาจำนวน 1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมตัดเป็นท่อนจำนวน 2 ต้น
เครื่องปรุงรสไก่ชนิดผงจำนวน 1 ช้อนชา

เทน้ำสะอาดลงในหม้อพอประมาณ 1 ½ ถ้วยตวง จากนั้นต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่ต้นตะไคร้ตัดเป็นท่อนๆ ใบมะกรูด ข่า
ใส่เนื้อหมูตามลงไป แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว เครื่องปรุงรสไก่ชนิดผง
จากนั้นลองชิมรสชาติดูความพอใจ ถ้าหากพอใจแล้วก็ให้ตักต้มใส่ชามที่เตรียมไว้
จากนั้นใส่พริกขี้หนูสวน ต้นหอมที่เตรียมไว้ ผักชีฝรั่งที่หั่นไว้ลงไป
เสิร์ฟได้ทันที พร้อมข้าวสวยร้อนๆ
เมนูต้มแซบหมูนี้เป็นเมนูที่น่ารับประทานมากๆอีกหนึ่งเมนูเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าหากแม่บ้านคนไหนสนใจจะนำสูตรไปลองทำเพื่อรับประทานกันในครอบครัวหรือจะทำเพื่อฝึกฝีมือการทำอาหารก็สามารถนำไปลองทำได้ตามสบายเลยค่ะ และนอกจากเมนูที่วันนี้ผู้เขียนนำมาเสนอกันแล้ว ยังมีอีกมากมายหลากหลายเมนูอาหารี่ผู้เขียนนั้นอยากจะเสนอให้กับคุณผู้อ่านทกท่านได้ลองกลับนำไปทำที่บ้านดูอีกด้วยค่ะ